บันทึกอนุทิน
วิชา การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
อาจารย์ผู้สอน อ.ตฤณ แจ่มถิน
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2556
เวลาเรียน วันศุกร์ 11:30-14:00 น.
........................................................................................
กิจกรรมการเรียนการสอน
4. เด็กที่บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
- เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
- อวัยวะส่วนหนึ่งหายไป
- มีปัญหาทางระบบประสาท
- มีความลำบากในการเคลื่อนไหว การเดิน นั่ง คลาน
จำแนกได้ 2 ประเภท
- บกพร่องทางร่างกาย
- บกพร่องทางสุขภาพ
- บกพร่องทางร่างกาย
- เด็ก ซี.พี.
- การที่เป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการหรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลาย ก่อนคลอด ระหว่างคลอด หลังคลอด
- การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็ก ซี.พี. มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่างๆของสมองที่แตกต่างกัน
อาการเด็ก ซี.พี.
- อัมพาตของลีลาการเคลื่อนไหว- อัมพาตเกร็งแขน เกร็งขา หรือ ครึ่งซีก- อัมพาตสูญเสียการทรงตัว- อัมพาตตึงแข็ง- อัมพาตผสม - กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular Distrophy )
- เกิดจากเส้นประสาท สมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ เสื่อมสลายตัว
- เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่- จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม - โรคระบบกระดูกกล้ามเนื้อ
- ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก (Club Foot) กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาครึ่งท่อน จากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด (Spina Bifida)- ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการ ด้วยโรคติดเชื้อ (Infection) เช่น วัณโรค กระดูก หลังโกง กระดูกผุ กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ - โปลิโอ (Poliomyelitis)
- มีอาการกล้ามนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา- เกิดจากเชื้อไวรัสที่เข้าจากทางปาก กินอม ดูดนิ้ว มือไม่ล้าง- โปลิโอ เด็กเป็นขามากกว่าแขน- ยืนไม่ได้ หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์สริม- โรคนี้เป็นครั้งเดียวในชีวิต - แขนขาด่วนก่อนกำเนิด (Limb Deficiency)
- โรคกระดูกอ่อน ( Osteogenesis lmoerfeta)
2. บกพร่องทางสุขภาพ
2.1 โรคลมชัก (Epilepsy) เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
- ลมบ้าหมู (Grand Mal )
- เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึก ในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น - การชักช่วงสั้นๆ (Petit mal)
- เป็นอาการชักชั่วระยะสั้นๆ 5-10 วินาที
- เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะหยุดชะงกในท่าก่อนชัก
- เด็กจะนั่งเฉย หรือ็กอาจจะตัวส่นเล็กน้อย - การชักแบบรุนแรง (Grand Mai)
- เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึกล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง 2-5 นาที จากนั้นจะหายและจะนอนหลับไปชั่วครู่ - อาการชักแบบ (Partial Complex)
- เกิดเป็นระยะๆ
- กัดริมฝีปาก ไม่รู้สึกตัว ถูตามแขนขา เดินไปมา
- บางคนอาจเกิดความโกรธหรือโมโห หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และต้องการพักผ่อน - อาการไม่รู้สึกตัว (Focal Partial)
- เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้สึกตัว อาจจะทำอะไร บางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า ดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
2.2 โรคเกี่ยวกับสุขภาพ - โรคระบบทางเดินหายใจ
- โรคเบาหวาน
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- โรคศีรษะโต
- โรคหัวใจ
- โรคมะเร็ง
- เลือดไหลไม่หยุด
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
- มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
- ท่าเดินคล้ายกรรไกร
- เดินขากะเผลก หรือ เดินอืดอาดเชื่องช้า
- ไอเสียงแห้ง
- เจ็บหน้าอก ปวดหลัง
- หน้าแดงง่าย ปากเขียว
- หกล้มบ่อย
- หิวและกระหายน้ำอย่างเกินกว่าเหตุ
5. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา (Children with Speech and Language Disorders)
เด็กที่พูดไม่ชัด ออกเสียงผิดเพี้ยน อวัยวะที่ใช้ในการพูดไม่สามารถเป็นไปตามลำดับขั้น การใช้อวัยวะเพื่อการพูดไม่เป็นไปดั่งตั้งใจ มีอากัปกิริยา ที่ผิดปกติขณะพูด
เด็กที่พูดไม่ชัด ออกเสียงผิดเพี้ยน อวัยวะที่ใช้ในการพูดไม่สามารถเป็นไปตามลำดับขั้น การใช้อวัยวะเพื่อการพูดไม่เป็นไปดั่งตั้งใจ มีอากัปกิริยา ที่ผิดปกติขณะพูด
- ความผิดปกติด้านการออกเสียง
- ออกเสียงผิดเพี้ยนไปจากมาตราฐานของภาษาเดิม
- เพิ่มหน่วยเสียงเข้าในคำโดยไม่จำเป็น
- เอาเสียงหนึ่งมาแทนอีกเสียงหนึ่ง เช่น กวาดเป็นฟาด - ความผิดปกติด้านจังหวะเวลาของการพูด เช่น
- การพูดรัว การพูดติดอ่าง - ความผิดปกติด้านเสียง
- ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่าDysphasia หรือ Aphasia
4.1 MOTOR APHASIA
-เด็กที่เข้าใจคำถามหรือคำสั่ง แต่พูดไม่ได้ ออกเสียงลำบาก
-พูดช้าๆ พอพูดตามได้บ้างเล็กน้อย บอกชื่อสิ่งของพอได้
-พูดไม่ถูกไวยากรณ์
4.2 Wernicke's aphasia
- เด็กที่ไม่เข้าใจคำถาม คำสั่ง ได้ยินแต่ไม่เข้าใจความหมาย
-ออกเสียงไม่ติดขัด แต่มักใช้คำผิดๆ หรือใช้คำอื่น ซึ่งไม่มีความหมาย
4.3 Conduction aphasia
-เด็กที่ออกเสียงได้ไม่ติดขด เข้าใจคำถาม แต่พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้ มักเกิดร่วมไปกับอัมพาตของร่างกายซีกขวา
4.4 Nominal aphasia
-เด็กที่ออกเสียงได้ เข้าใจคำถามดี พูดตามได้
-แต่บอกชื่อวัตถุไม่ได้ เพราะ ลืมชื่อ บางทีก็ไม่ข้าใจความหมายของคำ มักเกิดร่วมไปกับ Genstmann's syndrome
4.5Global aphasia
-เด็กที่ไม่เข้าใจทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน
-พูดไม่ได้เลย
4.6 Sensory agraphia
-เด็กที่เขียนเองไม่ได้ เขียนตอบคำถามหรือเขียนชื่อวัตถุก็ไม่ได้ มักเกิดร่วมกับ Genstmann's syndrome
4.7 Monter agraphia
-เด็กที่ลอกตัวเขียนหรือตัวพิมพ์ไม่ได้
-เขียนตามคำบอกไม่ได้
4.8 Cortical alexia
-เด็กที่อ่านไม่ออกเพราะไม่เข้าใจภาษา
4.9 Moter alexia
-เด็กที่เห็นตัวเขียนและตัวพิมพ์ เข้าใจความหมายแต่ออกเสียงไม่ได้
4.10 Genstmann's syndrome
-ไม่รู้ชื่อนิ้ว ไม่รู้ซ้ายขวา คำนวนไม่ได้ เขียนไม่ได้ อ่านไม่ออก
4.11 Visual agnosia
-เด็กที่มองเห็นวัตถุ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร บางทีบอกชื่อนิ้วตัวเองไม่ได้
4.12 Auditory agnosia
-เด็กที่ไม่มีความบกพร่องทางการได้ยิน แต่แปลความหมายของคำหรือประโยคที่ได้ยินไม่เข้าใจ
ลักษณะของเด็กที่บกพร่องทางการพูดและภาษา
- ในวัยทารก มักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องไห้เบาๆและอ่อนแรง
- ไม่อ้อแอ้ ภายใน 10 ดือน
- ไม่พูดภายใน อายุ 2 ขวบ
- หลัง 3 ขวบ ก็ยังพูด ฟังไม่รู้เรื่อง ฟังยาก
- ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
- หลัง 5 ขวบ เด็กยังใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ ในระดับประถมศึกษา
- มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกุกตะกัก
- ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
อาจารย์ให้ดูวีดีโอความรู้สึกหลังดูวีดีโอ
ในฐานะที่เราจะไปเป็นครูเราต้องให้กำลังใจเด็ก ดูแลเด็ก และส่งเสริมความสามารถของเค้าเท่าที่จะทำได้ตามศักยภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น